คอลัมน์ SE เปลี่ยนโลก: โครงการทวิภาคีสหกิจศึกษา ปั้นเยาวชนสู่แรงงานคุณภาพ

โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2561
จะเรียม สำรวจ
การศึกษานับเป็นหัวใจสำคัญของการวางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศ ด้วยเหตุนี้ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนจึงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเยาวชนไทยในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะการมีความรู้ความสามารถถือเป็นใบเบิกทางที่สำคัญสำหรับการก้าวสู่โลกกว้าง
แต่อย่างไรก็ดี ยังมีเยาวชนส่วนหนึ่งของไทยยังขาด เนื่องจากฐานะทางการเงินของครอบครัวไม่เพียงพอที่จะก้าวออกมาแสวงหาความรู้ ขณะเดียวกันอีกส่วนหนึ่งก็มีความรู้แต่ในตำราเรียน ขาดความรู้ความเข้าใจในงานที่จะก้าวเข้าไปทำ ด้วยเหตุนี้ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือ CRG จึงอยากขอเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือในสิ่งที่ขาดดังกล่าว ด้วยการก่อตั้งโครงการทวิภาคี สหกิจศึกษา และฝึกงานกับ CRG ในปี 2547
วัตถุประสงค์ของการเริ่มต้นโครงการนี้ คือ การมอบโอกาสให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาทักษะความสามารถจากประสบการณ์ทำงานจริง รวมไปถึงการให้โอกาสทางการศึกษาด้านวิชาชีพแก่เยาวชนที่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือมัธยมศึกษาตอนปลาย
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการพัฒนาผู้ฝึกให้มีศักยภาพแรงงานที่ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ ซึ่งในส่วนของนักศึกษาที่จบการศึกษาไปมีโอกาสที่จะได้รับการรับเลือกเป็นหัวหน้างานที่มีความเชี่ยวชาญ ตอบสนองการเติบโตของสถานประกอบการ
สำหรับสถานศึกษาที่นำมาเข้าร่วมโครงการทวิภาคี สหกิจศึกษา และฝึกงานกับ CRG นั้น จะเน้นไปที่สถาบันอาชีวศึกษาเป็นหลัก เนื่องจากสถาบันศึกษาดังกล่าวเน้นสอนด้านสายงานอาชีพ ซึ่งตรงกับธุรกิจของ CRG จึงทำให้เลือกสถาบันกลุ่มดังกล่าวเป็นหลัก โดยในส่วนของความร่วมมือสถานศึกษาจะสอนในภาคทฤษฎี และ CRG ซึ่งเป็นสถานประกอบการจะสอนภาคปฏิบัติ เพื่อให้ผู้ที่จะสำเร็จการศึกษามีความรู้และได้รับประสบการณ์ในการทำงาน อันจะเป็นประโยชน์สำหรับการทำงานในอนาคต
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ CRG อยู่ระหว่างการพิจารณาสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนสอดคล้องกับธุรกิจนำมาเข้าร่วมโครงการ เพื่อส่งเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่องไปสู่ระดับปริญญาตรีและขยายสู่พนักงานปัจจุบัน ภายใต้ชื่อโครงการ “ไตรภาคี” ซึ่งถือเป็นการต่อยอดทางการศึกษา สร้างและพัฒนาพนักงานระดับจัดการของฝ่ายปฏิบัติการ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ โดยปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยที่ทำความร่วมมือแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตโชติเวช คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยเกริก (การเรียนรูปแบบออนไลน์)
จากความร่วมมือดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมีสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมโครงการแล้วประมาณ 321 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียน นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่เข้ามาร่วมฝึกงานกว่า 1,248 คน ซึ่งหลังจากฝึกงานเสร็จสิ้น ปัจจุบันมีนักศึกษาจบหลักสูตรการศึกษาไปแล้วกว่า 1 หมื่นคน ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แล้ว 12 รุ่น นอกจากนี้ยังมี ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี 5 รุ่น
ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป กล่าวว่า เราเริ่มโครงการด้วยนโยบาย 3 ม. คือ มีเงิน มีงาน และมีวุฒิการศึกษา คือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวช.) ตามนโยบายของกรมการจัดหางาน ซึ่งเป็นโครงการแรกที่เริ่มเรียนในระบบออนไลน์ ตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการ โดยร่วมกับวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค) และวิทยาลัยเทคโนโลยีชนะพลขันธ์
การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวนอกจากจะได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและสังคมแล้ว ยังได้พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีมและการบริหารจัดการบุคลากรในการทำงาน ซึ่งความรู้และทักษะการปฏิบัติงานจากสถานประกอบการที่ได้รับดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่สถานศึกษาไม่สามารถให้ได้ และที่ดีไปกว่านั้น คือ ช่วงที่เข้ามาฝึกงานยังมีรายได้จากการทำงานเพื่อใช้เป็นทุนการศึกษา และเมื่อฝึกงานจบยังจะได้รับวุฒิการศึกษาจากสถานศึกษา และใบรับรองการผ่านงานจากสถานประกอบการ เพื่อนำไปใช้ประกอบการสมัครงานในชีวิตจริง
ณัฐ กล่าวว่า นักเรียน นักศึกษาที่ได้เข้ามาร่วมฝึกงานกับบริษัท ส่วนใหญ่จะมีความสุขกับการได้เข้ามาทำงานร่วมกับบริษัท เพราะนอกจากจะได้ความรู้จากการทำงานในสถานที่จริงแล้ว ยังได้รับค่าตอบแทนช่วงที่เข้ามาฝึกงานอีกด้วย สิ่งที่ได้รับดังกล่าวพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษาที่เข้ามาร่วมฝึกงานมีความสุขมากเห็นได้จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มของการปฐมนิเทศก่อนเข้าทำงาน
ในแต่ละวันนักศึกษาจะได้เข้ามาร่วมฝึกงานกับร้านอาหารในเครือ CRG ทั้ง 11 แบรนด์ ได้แก่ มิสเตอร์ โดนัท เคเอฟซี อานตี้ แอนส์ เปปเปอร์ ลันช์ ชาบูตง โคล สโตน ครีมเมอรี่ เดอะ เทอเรส โยชิโนยะ โอโตยะ เทนยะ และคัตสึยะ ส่วนของค่าแรงที่ได้รับต่อการทำงาน 6 ชั่วโมงใน 1 วันจะเริ่มต้นที่ประมาณ 315 บาท นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการจ่ายค่าที่พักให้ 2,000 บาท/เดือน สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่มาจากต่างจังหวัด
จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวทำให้ปัจจุบันมีสถานศึกษาให้ความสนใจขอเข้าร่วมโครงการ ทวิภาคีฯ กับ CRG เป็นจำนวนมาก หรือเฉลี่ยต่อปีที่ประมาณ 20 สถาบัน และเพื่อให้หลักสูตรการเรียนและการทำงานมีความสอดคล้องกัน CRG ได้มีการกำหนดเกณฑ์การพิจารณาสถานศึกษาที่จะนำมาเข้าร่วมโครงการดังนี้ 1.รายวิชาต้องตรงกับการดำเนินธุรกิจของ GRG คือ ต้องมีหลักสูตรอาหาร หรือค้าปลีก 2.นักศึกษาต้องมีความเข้าใจและสนใจที่จะเข้ามาร่วมงาน และ 3.สถานศึกษานั้นต้องมีอาจารย์แนะแนวที่มีความเข้าใจเด็กและเข้าใจในธุรกิจที่ตรงกัน
ณัฐ กล่าวอีกว่า สถานศึกษาที่มีความสนใจจะเข้าร่วมโครงการ สามารถเข้ามาคุยกับบริษัทได้ ซึ่งบริษัทก็จะมีการพิจารณาความเหมาะสมเป็นสถาบันๆ ไป เพราะบริษัทมองเห็นความสำคัญของการให้โอกาสอย่างเต็มที่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน CRG เป็นบริษัทเดียวที่ไม่มีสัญญาผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้นกับนักเรียนนักศึกษาที่เข้าฝึกงานจนจบหลักสูตร
นอกจากนี้ ยังมีทีมครูฝึกที่ผ่านการอบรมครูฝึกในสถานประกอบการจากกระทรวงแรงงาน อีกทั้งยังมีจิตวิญญาณของความเป็น “ครู” เมื่อมีสถานการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น ทุกคนพร้อมเปิดใจ ร่วมมือแก้ไข และช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับนักศึกษาด้วยความเข้าใจและมีเมตตา ซึ่งจะมีทั้งทีมพี่เลี้ยง และทีมการศึกษาที่มีความรู้ความสามารถมาคอยให้ความช่วยเหลือ พร้อมดูแลน้องๆ ด้วยความใส่ใจทั้งเรื่องวิชาการ การฝึกอาชีพ การปรับตัว และการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]