มติชน ฉบับวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า กรณีที่กลุ่มพนักงานมหาวิทยาลัย เรียกร้องให้ ทปอ., ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) และที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) พูดคุยกับสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง (กค.) กรณีสำนักงบประมาณจัดสรรงบ เพื่อเลื่อนเงินเดือนให้พนักงานในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2560 ในอัตราร้อยละ 4 ส่วนข้าราชการร้อยละ 6 ซึ่งกลุ่มพนักงานในสถาบันอุดมศึกษาเห็นว่าการเลื่อนเงินเดือนดังกล่าวไม่เป็นธรรม เนื่องจากพนักงานมหาวิทยาลัยไม่มีสวัสดิการ หรือบำเหน็จ บำนาญ เช่นเดียวกับข้าราชการ อีกทั้ง จำนวนข้าราชการในมหาวิทยาลัยลดน้อยลงนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด ดังนั้น อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุย วางแนวทางในการแก้ปัญหา ซึ่งตนยินดีให้ความ ช่วยเหลือ
นายสุชัชวีร์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปรับเพิ่มเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัยนั้น ส่วนตัวเห็นว่าขึ้นอยู่กับระเบียบ และแนวทางการดำเนินงานของแต่ละแห่ง อย่างเช่น สจล.จะปรับเพิ่มเงินเดือนจากการประเมินผลงาน โดยให้อาจารย์ และพนักงานทุกคนกรอกข้อมูล ผลงานผ่านคอมพิวเตอร์ เช่น มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติจำนวนเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้จะปรากฏให้ผู้บริหารได้เห็น และถูกนำไปใช้ในการประเมินปรับเพิ่มเงินเดือน เป็นต้น
“ผมเข้าใจว่าการปรับเพิ่มเงินเดือนของแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน เท่าที่ดูของ สจล.ไม่มีปัญหา แต่ที่อื่นผมไม่แน่ใจ ในฐานะประธาน ทปอ.ยินดีที่จะเข้าไปช่วยแก้ไข แต่อยากให้ ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยรายละเอียด เพื่อจะได้ทราบข้อมูล และวางแนวทางแก้ไขต่อไป” นายสุชัชวีร์กล่าว
นายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี และเลขานุการ ทปอ.มทร.กล่าวว่า ที่สำนักงบประมาณจัดสรรงบ เพื่อเลื่อนเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัยที่ 4% ส่วนข้าราชการ 6% ค่อนข้างไม่เป็นธรรม ซึ่งในส่วนของมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ และขนาดกลาง อาจไม่มีปัญหา เพราะสามารถใช้เงินรายได้มหาวิทยาลัย หรือเงินกองทุนมา บริหารจัดการปรับเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานมหาวิทยาลัยให้เกิดความเป็นธรรมได้ แต่มหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่อาจารย์มีภาระงานในการสอน และมีความตั้งใจทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ อาจได้รับผลกระทบ
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ในส่วนของ มทร.ธัญบุรี บริหารจัดการโดยใช้เงินกองทุนมาปรับเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานมหาวิทยาลัย คิดว่าคงไม่กระทบ แต่ยอมรับว่าเป็นภาระด้านงบที่เพิ่มขึ้น โดยตนจะสอบถาม มทร.อื่นๆ ว่ามีแนวทางการบริหารจัดการอย่างไร แต่เท่าที่ดูทุกแห่งคงใช้วิธีการบริหารจัดการภายในเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้พนักงานมหาวิทยาลัยเดือดร้อน และเสียกำลังใจ เพราะขณะนี้ในมหาวิทยาลัยต่างๆ มีข้าราชการอยู่ไม่มากนัก อย่าง มทร.ธัญบุรี มีข้าราชการเหลือเพียง 20% เท่านั้น
“ผมเห็นว่าการจัดสรรงบเพื่อเลื่อนเงินเดือนครั้งนี้ ไม่เป็นธรรม เกิดความลักลั่น และเพิ่มภาระด้านงบให้มหาวิทยาลัย ซึ่งโดยหลักการสำนักงบประมาณควรจะจัดสรรงบในการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัยให้เท่ากัน เพราะถ้าคำนวณแล้ว แม้จะให้เท่ากันก็ใช้งบไม่มากนัก” นายประเสริฐกล่าว
