ประสานพลังชุมชน แก้ปัญหาขยะพลาสติกล้นทะเล เตรียมเปิดวิสาหกิจชุมชนแปรรูปขยะจ. ชลบุรี

แนวหน้า ฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
ชุมชนบ้านอำเภอ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ร่วมกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) และ บริษัทพรีเชียส พลาสติค แบงค็อก จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรเพื่อเปิดตัว วิสาหกิจชุมชนแปรรูปขยะพลาสติกช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติกล้นทะเล ฝั่งตะวันออก โดยเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นชุมชนอัพไซคลิ่ง (Upcycling) ที่นำขยะ พลาสติกจากทะเลมาแปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้างได้สำเร็จพร้อมจำหน่ายเพื่อใช้งานเป็นแห่งแรกของประเทศไทย นำร่องต้นแบบแห่งแรกที่ชุมชนบ้านอำเภอ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน จังหวัดชลบุรี
นางอัจฉรา ทับขัน ผู้อำนวยการ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนบ้านอำเภอเพื่อแปรรูปขยะพลาสติกจากทะเลมาเป็นวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปพร้อมใช้งานนี้ ถือว่าเป็นกลไกหนึ่งในการบริหารจัดการขยะพลาสติกในทะเล ที่เริ่มต้น จากความร่วมมือของชุมชนบ้านอำเภอ กับเทศบาลนาจอมเทียน ที่ช่วยกันเก็บขยะพลาสติกจากทะเลไว้ ซึ่งขยะเหล่านี้มีมากถึง 1,140 ตัน/ปี และขยะจากกิจกรรมการประกอบอาชีพ ประมงในพื้นที่ 18.18 ตัน/ปี เมื่อเก็บไว้แล้วเราก็หาทางทำให้มันมีมูลค่าขึ้นมา การที่เราได้รับความร่วมมือช่วยเหลือจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ในประเทศไทยรวมถึง ได้เรียนรู้โนฮาวจากภาคเอกชนเกี่ยวกับ การแปรรูปขยะพลาสติกจนถึงขั้นผลิตออกมาเป็นวัสดุก่อสร้างและนำไปใช้งานได้ในที่สุดนั้น นับว่ามีความยั่งยืนในการช่วยแก้ปัญหาขยะ พลาสติกในทะเล จากสภาพแวดล้อม ในพื้นที่ที่มีปัญหาจากขยะได้ทำลายสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเล สัตว์และพืชทะเลมีความลำบากในการดำรงชีวิต ฉะนั้น การเปิดวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน แบบบูรณาการนี้จึงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เป็นการยกระดับการบริหารจัดการขยะพลาสติกอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
นายเวคิน ตั้งกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) พันธมิตรจาก ภาคอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า MQDC ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับ กลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) จิตอาสาชุมชนในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โรงเรียน สถาบันการศึกษา เทศบาลตำบลนาจอมเทียน ตลอดจนเอกชนในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาและกระตุ้นจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ทำร่วมกัน อาทิ กิจกรรมรณรงค์เก็บขยะทะเลประจำเดือน งานเดินวิ่ง เก็บขยะ “รักษ์ทะเล เสน่ห์บ้านอำเภอ” แคมป์เยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม (Little Heroes) โครงการ ขวดแลกกล้า (นำขวดน้ำมาแลก ต้นกล้าเศรษฐกิจ) โครงการพา กล่องนมกลับบ้าน โดยตั้งเป้าลดขยะในพื้นที่ 2.5 ตัน/เดือน ตลอดจน โครงการขยะ 10 ชิ้น เรียนภาษาอังกฤษฟรี เพื่อส่งเสริมทักษะวิชาความรู้ให้กับเด็กในพื้นที่ ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ผ่อนคลายลง กิจกรรมต่างๆ ก็จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนงานต่อไป
โดย MQDC เล็งเห็นว่า ตลอดระยะเวลาในการร่วมอนุรักษ์ในพื้นที่กว่า 3 ปี ชุมชนบ้านอำเภอถือเป็นชุมชนที่เข้มแข็งในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กอปรกับมีความตั้งใจในการร่วมหาแนวทางต่างๆ เพื่อลดปริมาณขยะในพื้นที่และนำมาเป็นวัสดุทดแทนที่เกิดประโยชน์ เราจึงผสานความร่วมมือกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC by MQDC) ซึ่งมี ความเชี่ยวชาญด้านองค์ความรู้ เกี่ยวกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แนะนำพันธมิตรเครือข่ายเข้ามาร่วมต่อยอดในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานเป็นวัสดุก่อสร้างเพื่อใช้งานในโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ MQDC จึงซื้อวัสดุ ก่อสร้างอัพไซคลิ่งจากวิสาหกิจชุมชนนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของชุมชนให้ก้าวหน้าได้ตามเป้าหมาย เป็นการสร้างรายได้แก่ชุมชนในระยะยาว ซึ่งทุกฝ่ายต่างได้ประโยชน์โดยเฉพาะชุมชนและผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่จะได้สภาพแวดล้อมที่ดีกลับคืนไปและยังมีรายได้ทางเศรษฐกิจกลับไปอีกด้วยสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรของ MQDC และพันธมิตรที่ร่วมโครงการนี้
นายอนุสรณ์ สายนภา ประธานกลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่น รักษ์โลก ตัวแทนชุมชนบ้านอำเภอ กล่าวว่า การผลักดันให้เกิดวิสาหกิจชุมชนบ้านอำเภอให้เกิดขึ้นภายในปี 2564 จะมีการนำขยะพลาสติกทะเลรวมที่ไม่ต้องคัดแยกผลิตเป็นคอนกรีตบล็อกก่อกำแพงโรงเรียนบ้านอำเภอ และผลิตเป็นบล็อกปูพื้นสำหรับปูพื้นที่สาธารณะในแลนด์มาร์คของชุมชนบ้านอำเภอ และคาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี หลังจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนสำเร็จ ขยะทะเลจะถูกนำไปใช้ผลิตเป็นวัสดุก่อสร้างทั้งหมด และชุมชนบ้านอำเภอจะเป็นพี่เลี้ยงสามารถขยายผลไปสู่ชุมชนพันธมิตรอื่นๆ และอาจขยายผลในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ต่อได้
“วิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคมนี้จัดตั้งขึ้นจากกลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่น รักษ์โลก (อถล.) ที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พบเห็นขยะทั้งจากชุมชนวันละ 37 ตัน และขยะตามฤดูการที่พัดมาจากทะเล เป็นปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข จนทราบว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้คิดค้นงานวิจัยด้านวัสดุก่อสร้างที่ผลิตมาจากขยะพลาสติก ได้ประสานงานระหว่างสถาบันและชุมชนเรื่อยมา จึงเกิดเป็นวิสาหกิจชุมชน บ้านอำเภอ ที่นำขยะพลาสติกมาผ่านกระบวนการเปลี่ยนรูปเป็นวัสดุก่อสร้างเพื่อจำหน่าย แห่งแรกในประเทศไทย มีเป้าหมายให้เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และห้องทดลองเพื่อพัฒนาวัสดุ ใหม่ๆ เป็นผู้นำในการรณรงค์เรื่องการจัดการขยะชุมชนอีกด้วย คาดว่า ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หากสถานการณ์โควิดผ่อนคลายลงทางวิสาหกิจชุมชนก็จะมีเครื่องจักรเข้ามาเพิ่ม เพื่อดำเนินการอัพไซคลิ่งขยะพลาสติกต่อไป” นายอนุสรณ์กล่าว
สำหรับชุมชนหรือผู้สนใจที่จะเข้ามาเรียนรู้หรือสนับสนุนด้านการจัดการขยะพลาสติกอัพไซคลิ่ง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ นายอนุสรณ์ สายนภา ประธานกลุ่มอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลกโทร.081-9015679 หรือติดตามข่าวสารได้ที่ FB : รักษ์ทะเลเสน่ห์บ้านอำเภอ

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]