คอลัมน์ NEXT GEN: กีฬาเพาะกาย เปลี่ยนชีวิต เส้นทางทีมชาติ ‘มอส – ศักรินทร์’

          “นี่เป็นก้าวแรกและก้าวใหญ่ของผม ที่จะได้รับสิทธิสู่การเป็นนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย”
เสียงที่หนักแน่นของหนุ่มนักกีฬากล้ามล่ำ วัย 24 ปี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มอส-ศักรินทร์ แขวงกรุง แชมป์สมัยที่ 2 กีฬาเพาะกายและฟิตเนสรุ่นแอธเลติกฟิสิกส์ชาย ความสูงไม่เกิน 175 ซม. ด้วยเมื่อก่อนเป็นคนตัวเล็ก รูปร่างผอมบาง น้ำหนักเพียง 42 กก. เขาจึงกลายเป็น “ลูกไล่” ที่ถูกเพื่อนแกล้งอยู่เสมอ นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจให้มอสสนใจและทุ่มเทเวลาทั้งหมดกับกีฬาเพาะกาย เพื่อหวังที่จะเปลี่ยนชีวิตตนเองและครอบครัวไปสู่หนทางที่ดีกว่าเดิม สานฝันนักกีฬาอาชีพ

          กีฬาเพาะกายและฟิตเนส มีระดับการแข่งขันที่ต่างกันไป มีดีเทลมากมาย เช่นในรุ่นโอเดล จะเน้นร่างกาย หน้าตาและท่าทาง, รุ่นแอธเลติก จะเน้นความสมส่วน ส่วนเพาะกายจะเน้นความใหญ่ แข็งแรงและความดุดันของกล้ามเนื้อ ซึ่งล้วนจำเป็นต้องเรียนรู้ขั้นพื้นฐานเรื่อยไปจนถึงชั้นสูง ต้องรู้กล้ามเนื้อและบอดี้แต่ละส่วน โดยเฉพาะการทำงาน เพื่อจะได้สร้างและพัฒนากล้ามเนื้อให้ชัดเจน สามารถแสดงกล้ามเนื้อได้อย่างถูกต้อง ใช้งานได้อย่างเต็มที่และลดอาการบาดเจ็บ
มอส มองว่าความท้าทายของกีฬาประเภทนี้ คือ การควบคุมตนเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่การเตรียมตัว การแข่งขันบนเวทีและการดูแลตนเองหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ตัวอย่างเวทีล่าสุดที่เพิ่งแข่งขันจบไป ในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 ราชภัฏอุบลราชธานีเกมส์ จ.อุบลราชธานี ที่ต้องเตรียมร่างกายให้น้ำในร่างกายน้อยที่สุด ผิวหนังต้องบาง เพื่อตอนแข่งขัน กล้ามเนื้อจะได้ชัดเจน ภายใต้การดูแลของโค้ช หรือที่เรียกกันว่า เทคนิคการควบคุมน้ำและโซเดียม และต้องควบคุมอาหาร บางมื้อก็ต้องจัดเตรียมและปรุงอาหารด้วย ตนเอง
“สิ่งสำคัญที่สุดคือจิตใจ ถ้าใจเราพร้อม เราก็จะทำได้ ผมว่านี่เป็นพื้นฐานที่นักกีฬาทุกคนเห็นตรงกัน”
เส้นทางของมอส ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสรุ่นแอธเลติกฟิสิกส์ชาย ความสูงไม่เกิน 175 ซม. มาครองเป็นสมัยที่ 2 นั้นทำให้ได้รับสิทธิเป็น นักกีฬาทีมชาติไทย ชุดปี 2019 เพื่อเป็นตัวแทนนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทยที่จะไปแข่งขันเซาท์อีสต์เอเชีย นครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา
ไอดอลหรือต้นแบบนักเพาะกายที่ชื่นชอบ คือ Breon Ansley ซึ่งเป็น Professional Bodybuilder ระดับโลก สิ่งที่เขามีคือความเป็นตัวของตัวเองที่โดดเด่นและชัดเจน หากพูดถึงกล้ามเนื้อ ทุกคนสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เหมือนกันหมด แต่ความเป็นตัวตนที่แสดงออกมา จะทำให้เกิดความแตกต่าง น่าจดจำ ซึ่งมอสมองว่า Breon Ansley มีครบถ้วน
หลังเวทีเพาะกาย นักกีฬาทุกคนต้องเปลี่ยนสีผิวเดิม เป็นผิวสีแทน เพื่อเสริมมิติให้กับกล้ามเนื้อและบอดี้ในแต่ละส่วน  สำหรับโชว์กล้ามเนื้อเรียกคะแนนจากคณะกรรมการ และหลายคนเลือกกำจัดขนเกือบทุกส่วนของร่างกายออก เพื่อความสวยงามและความสะดวกในการลงสี ไม่เพียงเท่านั้น หลังจบการแข่งขันต้องล้างสีออกทั้งหมดกลับสู่สภาพเดิม ดังนั้นการมีโค้ช ผู้ช่วยโค้ชหรือผู้ดูแล จะทำให้เราแข่งขันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
“การออกกำลังกาย คือยาแห่งความหนุ่มความสาว” ถือเป็นเคล็ดลับสุขภาพดีของมอส ที่เป็นการกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และจะต้องกินอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ได้สารอาหารครบ รวมทั้งพักผ่อนอย่างเต็มที่ “นี่คือเรื่องพื้นฐานที่ง่ายที่สุด แต่เชื่อว่ามีบางคนเท่านั้น ที่สามารถทำได้” มอส อธิบาย
หลายอย่างที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้มาจากความบังเอิญ แต่เป็นส่วน ผสมของความตั้งใจ ความอดทน และความมีวินัยอย่างเคร่งครัด ภายใต้การควบคุมของโค้ช สิ่งหนึ่งที่มอสบอกว่าเขาไม่เคยลืมคือ เสียงเชียร์ และกำลังใจ แม้จะเหนื่อยและกดดันเพียงใด เวลาแข่งขันบนเวทีแค่ ได้ยินเสียงปรบมือ ก็เป็นแรงผลักดันให้ร่างกายและหัวใจสูบฉีดเพื่อไป ต่อได้เสมอ ซึ่งเขายอมรับว่ากีฬาเพาะกายเข้ามาเปลี่ยนชีวิตในหลาย ด้านจริง ๆ
มอสย้ำน้ำเสียงหนักแน่นว่า จากนี้ต่อไป เขาจะต้องซ้อมอย่างหนัก ทุ่มเททั้งกายและใจ เพื่อพัฒนาตนเองบนเส้นทางทีมชาติไทยให้ดีที่สุด !!.

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]