เติมไอเดียชีวิต ‘วัยเกษียณ’ ด้วยสวน

ในวัยเกษียณ หลายคนค้นหากิจกรรมเพื่อเสริมสร้างร่างกาย จิตใจ การจัดแต่งสวนในพื้นที่พักอาศัยถือเป็นแนวคิดหนึ่งที่หลายคนสนใจ แต่ยังขาดไอเดียในการทำ ซึ่งเอาเข้าจริงจะต้องมีการเตรียมความพร้อม และใช้เวลาไม่น้อยทีเดียว
พิศาล ตันสิน ผู้ช่วยคณบดี คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้ความเห็นว่า การจัดสวนของผู้สูงอายุ เทรนด์ตอนนี้เป็นไปเพื่อสุขภาพ และเพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้กับบ้านพักอาศัย รวมถึงเป็นการสร้างกิจกรรม ในการทำสวนกระบะเพื่อปลูกผักกินเอง แต่ควรออกแบบพื้นที่ให้เดินได้สะดวก สามารถนำรถเข็นที่ผู้สูงอายุนั่งเข้าไปในสวนได้

ปัญหาส่วนใหญ่ของสวนผู้สูงอายุ หลายคนดีไซน์พื้นที่ให้มีที่ลาดชันมากๆ ซึ่งไม่เหมาะสม แต่ควรออกแบบสวนให้เดินง่าย ไม่มีพื้นที่ต่างระดับมาก และไม่ควรนำต้นไม้ที่มีหนามเข้ามาตกแต่ง เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ ต้นไม้ที่นำมาปลูกควรคำนึงถึงรูปทรง และการใช้ประโยชน์ เช่น กินได้ หรือมีกลิ่นหอม

การวางผังของพื้นที่ ต้องออกแบบให้ตัวบ้านเชื่อมต่อกับถนนทางเข้า และต้องคำนึงถึงทิศทางลม ที่จะมาทางตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศทางลมประจำของไทย ซึ่งก่อนสร้างบ้านต้องไปดูระดับน้ำที่ท่วมสูงสุดในพื้นที่ที่ผ่านมา เพื่อยกบ้านให้อยู่ในระดับที่น้ำท่วมไม่ถึง
ควรมีการสำรวจดินในพื้นที่ว่า มีลักษณะเช่นไร เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็ทำการปรับปรุงดินประมาณ 1 ปี ที่สำคัญระดับความสูงของต้นไม้บางชนิดในสวน ต้องอยู่ในระดับ ความสูงที่ผู้สูงอายุตัดแต่งได้ เช่น ถ้าจะทำโรงเห็ด อาจทำชั้นวางที่ไม่สูงมาก แต่อยู่ในระดับที่ผู้สูงอายุเก็บเห็ดได้ โดยไม่ต้องปีนไปในที่สูง เช่นเดียวกับการวางระบบน้ำในพื้นที่เป็นสิ่งแรก ๆ ที่ต้องทำ

          แนวคิดการจัดสวนอาจแบ่งต้นไม้ที่จะปลูกคือ 1. ไม้ยืนต้น เน้นให้ร่มเงา มีดอกผล หรือให้กลิ่นหอม 2. ต้นไม้ในกระบะ หรือกระถาง ช่วยให้เกิดกิจกรรมที่ผู้สูงอายุสามารถตัดแต่งได้ง่าย และเป็นอาหาร 3. ห้องเก็บเครื่องมืออุปกรณ์ ต้องทำพื้นที่ให้หยิบจับใช้งานได้ง่าย
แนวคิดการออกแบบพื้นที่ เช่นที่ราบลุ่ม อาจออกแบบให้มีการขุดสระน้ำเป็นรูปตัว “U” โดยบ้านพักอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยสระน้ำ ซึ่งดินที่ได้จากการขุดสระจะนำมาถมพื้นที่บ้านให้สูงขึ้น และเลี้ยงปลาสลิดในบ่อ ที่จะช่วยกินเศษหญ้าที่เน่าเปื่อย และเลี้ยงไก่แจ้ ที่จะออกไข่ให้ได้ทาน  แถมสีสันของไก่แจ้ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งไก่ก็จะกินแมลงที่เป็นศัตรูพืช ทำให้ไม่ต้องไปฉีดสารเคมี
ถ้ามีความรู้ว่าน้ำใต้ดินในพื้นที่สวนส่วนไหนสูง อาจปลูกกล้วย ต้นจิก ต้นหว้า ที่เวลาน้ำท่วมต้นไม้พวกนี้จะไม่ตาย แต่ถ้าเป็นพวกต้นมะม่วง ต้องปลูกในบ่อซีเมนต์ เพื่อให้รากแผ่กระจายในบ่อ และป้องกันน้ำท่วมที่ส่งผล กระทบต่อต้นไม้ ซึ่งไม้ผลส่วนใหญ่ควรปลูกไว้ในบ่อซีเมนต์ เพื่อป้องกันน้ำท่วม
ด้านไม้ดอกที่จะช่วยเพิ่มสีสันและความร่มรื่น จะใช้กล้วยไม้ ที่ให้รากเกาะกับโคนต้นไม้ใหญ่ ส่วนไม้ดอกแบบไทย ๆ จำเป็นต้องดูว่า ต้นไม้ที่จะนำมาปลูกจะทนต่อสภาพพื้นที่ได้หรือไม่ เช่น ต้นปริศนา ต้นกรรณิการ์ ต้นพุดภูเก็ต
คนที่ต้องการทำสวน ควรเตรียมตัวก่อนเกษียณอย่างน้อย 5 ปี เพราะเมื่อเกษียณ ของทุกอย่างในสวนจะให้พืชผล สามารถกินได้ทันที แต่ถ้ามาเริ่มตอนอายุมาก ๆ จะทำได้ยาก เพราะเรี่ยวแรงก็น้อยลง การทำงานหนัก ๆ ในการบุกเบิกสวนใหม่ก็ยากขึ้น
โดยช่วง 5 ปีแรก ควรลงไม้ผลในสวนเพื่อให้เจริญเติบโต เช่น มะม่วง ขนุน ชมพู่ ฝรั่ง ตะขบ ส่วนต้นกล้วย หรือต้นไผ่ จะปลูกไว้ริมรั้ว เพื่อเป็นแนวป้องกันฝุ่นที่จะเข้ามาในบริเวณบ้าน
ถ้ามีพื้นที่น้อยก็สามารถทำสวนในบ้านได้ เช่น ทาวน์เฮาส์ สามารถใช้พื้นที่แค่ 20 ตารางเมตร ปลูกผักกระถาง สวนแนวตั้ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแนวคิด และความเอาใจใส่ ในการทำสวน แต่สิ่งสำคัญ ผู้สูงอายุที่ทำสวนอย่าโหมงานในสวนจนเป็นลม แต่ควรค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ
ส่วนการเลือกใช้วัสดุในสวน ควรเลือกที่มีพื้นผิวขรุขระ เวลาเดินในสวนแล้วไม่ลื่นง่าย ส่วนตัวบ้านควรเป็นบ้านชั้นเดียว เพื่อง่ายต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ โดยรอบบ้านจะเป็นสวน ทำให้มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน
จริง ๆ การออกแบบบ้านและสวนของผู้สูงอายุ คนทุกวัยสามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะเด็ก ๆ ก็มีพื้นที่ให้วิ่งเล่น หรือผู้สูงอายุอาจพาเด็ก ๆ ไปปลูกต้นไม้ หรือตัดแต่งกิ่งไม้ด้วยกัน
จึงอยากฝากผู้สูงอายุ การทำสวนในพื้นที่บ้านนอกจากจะเน้นเรื่องสุขภาพแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ เช่น โรงเพาะเห็ด หรือเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาขาย แต่สิ่งสำคัญคือ พื้นที่เหล่านี้ลูกหลานสามารถมาพบปะผู้สูงอายุ และทำกิจกรรมร่วมกันได้

 

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]